เชื่อไหมว่าสีเขียวมัทฉะในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มอีกต่อไป แต่สีเขียวมัทฉะยังกลายเป็นแรงบันดาลใจระดับโลกสำหรับงานออกแบบอีกด้วย โดยเฉพาะโทนสีที่พัฒนาจากธรรมชาติของใบชาเกรดพิเศษ ผสมผสานระหว่างความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับนวัตกรรมสีร่วมสมัย เพื่อเพิ่มสีสันและเอกลักษณ์ความแปลกใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่นักออกแบบมักหยิบมาสร้างสตอรี่ให้กับงานดีไซน์ใหม่ ๆ
โทนสี Matcha Latte – สีเขียวอ่อนสบายตา
โทนสีเขียวที่ถูกพัฒนามาจากสีฟองนมในเครื่องดื่มยอดนิยม Matcha Latte ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและผ่อนคลาย ด้วยเฉดเขียวอ่อนที่ผสมเทานวลคล้ายสีของผงชาที่ละลายในนมอุ่น ๆ เหมาะสำหรับการออกแบบพื้นที่ทำงานและร้านคาเฟ่เพื่อสร้างบรรยากาศสบายตาโดยไม่น่าเบื่อ นักออกแบบหลายคนนิยมใช้โทนนี้เป็นฐานหลักก่อนเพิ่มลูกเล่นด้วยสีตัดเช่นสีชมพูฝุ่นหรือเบจอุ่น
โทนสี Ceremonial Matcha – สีเขียวมรกตอมเทาอ่อน
สีเขียวมัทฉะระดับพรีเมียมในปีนี้เน้นเฉดสีที่สะท้อนคุณภาพของใบชาเกรด Ceremonial Grade โดยเฉพาะสีเขียวสดใสอันเกิดจากปริมาณคลอโรฟิลล์สูงในใบชาอายุน้อย ซึ่งผ่านกระบวนการคั่วและบดอย่างพิถีพิถัน นักออกแบบสีชั้นนำได้แปลงโทนนี้เป็นเฉดสี “Uji Emerald” สีเขียวมรกตอมเทาอ่อนที่ให้ความรู้สึกสมบูรณ์แบบระหว่างความสดชื่นและความหรูหรา ไม่รู้สึกฉูดฉาดจนเกินไป เหมาะสำหรับงานออกแบบบรรจุภัณฑ์หรูและสกินแคร์ธรรมชาติ เพื่อสื่อถึงความพิถีพิถันในกระบวนการผลิต
โทนสี Matcha Soft Green – สีเขียวนวล
โทนสีที่เป็นการตีความใหม่ของสีใบชาสดในรูปแบบนวลตาที่สุด โดยลดความอิ่มตัวของสีลง 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสีมัทฉะดั้งเดิม เฉดนี้ทำงานได้ดีกับแสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์ ช่วยให้ห้องนอนหรือห้องน้ำดูโปร่งโล่งโดยไม่เสียความอบอุ่น เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการออกแบบรีสอร์ทแนวญี่ปุ่นโมเดิร์นที่ต้องการความสมดุลระหว่างความเป็นธรรมชาติและความทันสมัย
โทนสี Deep Matcha – สีเขียวลุ่มลึก
สีเขียวที่ได้รับอิทธิพลจากสีของใบชาอายุค่อนข้างมากที่ให้รสชาติเข้มข้น เฉดสีเขียวลุ่มลึกนี้มักผสมด้วยโทนน้ำตาลอ่อนคล้ายสีของกาน้ำชาไม้โบราณ เหมาะสำหรับการสร้างมิติและความน่าสนใจในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ผนังห้องสมุดหรือห้องรับประทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นระดับไฮเอนด์ การใช้สีนี้ร่วมกับวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ขัดมันหรือหินกรวดมนจะช่วยเสริมอารมณ์ของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
พาเลตต์สีอะไรที่จับคู่เข้ากับโทนสีชาเขียวมัทฉะได้สวยงามยิ่งขึ้น?
- สีเบจ: เปรียบเสมือนฐานรากที่มั่นคงสำหรับโทนมัทฉะ ด้วยความอุ่นของสีดินและทรายที่กลมกลืนกับธรรมชาติ สีเบจช่วยลดความเข้มของสีมัทฉะลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการสร้างพื้นที่สงบเช่นห้องนอนหรือร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมื่อใช้สีเบจอมเทา (Greige) เป็นพื้นหลังร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีธรรมชาติ จะช่วยให้โทนมัทฉะเด่นขึ้นราวกับใบชาสดบนถาดเซรามิกโบราณ
- สีครีม: สีในโทนนมวัวหรือนมถั่วเหลืองทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างความสดชื่นของมัทฉะกับความอบอุ่นของสีเบจ การใช้สีครีมในพื้นที่ทำงานหรือห้องสมุดช่วยสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นสมาธิโดยไม่เมื่อยล้าสายตา เช่น การพ่นสีครีมบนผนังคู่กับโทนมัทฉะเข้มบนผ้าม่าน จะได้ห้องที่ดูมีชั้นเชิงโดยไม่หนักหน่วง
- สีเหลืองอ่อน: สีในเฉดข้าวสาลีอ่อนหรือดอกแดนดิไลออนเป็นจุดเด่นที่เติมชีวิตชีวาให้โทนมัทฉะ ตัวอย่างการใช้งานที่ได้ผลดีคือการนำสีเหลืองอ่อนมาเป็น accent color บนของตกแต่งขนาดเล็ก อย่างแจกันเซรามิกหรือปลอกหมอน ซึ่งจะสร้างความสมดุลระหว่างความเย็นของสีเขียวและความอุ่นของสีเหลือง ตามหลักทฤษฎีสีตรงข้าม (Complementary Color) ที่ช่วยให้สีทั้งสองดูสดใสขึ้นโดยไม่ขัดสายตา
เห็นแล้วใช่ไหมว่าสีเขียวมัทฉะในปี 2025 ไม่ใช่แค่เทรนด์หรือกระแสฟีเวอร์ชั่วคราว แต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความต้องการของสังคมยุคใหม่ในการหวนคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยการตีความใหม่ผ่านภาษาสีที่ทันสมัยและมีชั้นเชิง พร้อมก้าวไปพร้อมกับนวัตกรรมที่ไร้ขีดจำกัด
สุดท้ายนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบโทนสีแปลกใหม่ อย่างโทนสีเขียวมัทฉะในเฉดต่าง ๆ “The Code Color” ผู้ให้บริการด้านสีที่มีความชำนาญในการผสมสีและผลิตสีตามความต้องการของลูกค้า ทางร้านสามารถผลิตสีเขียวมัทฉะได้ทุกเฉดสีที่ต้องการ พร้อมนำไปใช้กับทุกพื้นผิวงานได้ ไม่ว่าคุณจะมองหาเฉดสีเขียวมัทฉะสำหรับใช้กับวัสดุสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ สีพ่นผนัง สีพ่นกระจก สีพ่นโลหะ สีพ่นกระเบื้อง และอื่น ๆ ที่ต้องการการตกแต่งด้วยสี สีที่ผลิตมีความสดใสและชัดเจนในทุกมิติ ยกระดับบ้านหรือร้านอาหารและเครื่องดื่มของคุณให้สวยงามน่าดึงดูดและมีเสน่ห์บ่งบอกถึงตัวคุณมากที่สุด ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามทีมงานของเราโดยตรงได้เลย