เอกลักษณ์และตัวตนที่สะท้อนผ่านสีพ่นของยานพาหนะ

เคยสงสัยกันไหมว่าแท้จริงแล้วรถยนต์นั้นใช้วิธีการอะไรเพื่อให้ได้สีที่ดูสะดุดตาและสร้างเอกลักษณ์ให้กับรถยนต์คันนั้น ๆ คำตอบคือ การพ่นสีที่ได้มาตรฐาน เพราะรถยนต์แต่ละคันมีความยากง่ายในการตกแต่งแตกต่างกัน จึงทำให้เทคนิคการพ่น การดูรักษาหลังการพ่น หรือสีพ่นที่ได้มาตรฐาน ล้วนมีความสำคัญกับรถยนต์ทุกรูปแบบ ซึ่งสีพ่นรถยนต์ที่ได้มาตรฐานทำให้ยานพาหนะคันนั้นผ่านการตรวจสอบ เพื่อให้ถึงมือผู้ที่ต้องการใช้งานในอนาคต  แต่น่าเสียดายที่สีพ่นรถยนต์จากโรงงานนั้นอาจไม่สามารถตอบโจทย์ความชอบหรือถ่ายทอดตัวตนของผู้ใช้งานได้

การปรับแต่งสีรถยนต์จึงเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทั้งมือใหม่และมือเก่าให้ความสนใจ เพื่อให้ยานพาหนะคันโปรดนั้นมีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสะท้อนตัวคนขับได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังดูใหม่อยู่เสมอด้วยข้อดีของการพ่นสีรถยนต์ที่ช่วยดูแลรักษาคุณภาพรถยนต์ในรูปแบบเดิม ทำให้ไม่ว่าจะตกแต่งเพื่อใช้งานต่อเนื่อง หรือเพื่อนำไปขายต่อก็สามารถเพิ่มมูลค่ากำไรให้กับรถยนต์ได้ทั้งนั้น ในบทความนี้จะชวนคุณผู้อ่านมาเจาะลึกกันว่าสีรถยนต์ที่ดีและมีมาตรฐานนั้นเป็นอย่างไร

3 เทคนิค เลือกสีพ่นคุณภาพอย่างไรไม่ให้พลาดด้วยการสังเกตลักษณะเหล่านี้

สีพ่นรถยนต์ที่ดีและมีมาตรฐานนั้นไม่ได้เลือกยากอย่างที่คิด เพราะคุณภาพจะเป็นตัวชี้วัด ซึ่งคุณภาพที่กล่าวมานั้นมีดังนี้

1. สีสวยตรงตามโค้ด
   

   สีพ่นรถยนต์ที่ดีจะต้องมีเฉดตรงตามโค้ดสี ไม่เพี้ยน ไม่ด่าง หรือเหลื่อม ซึ่งสามารถวิเคราะห์ดูได้ง่าย ๆ ผ่านตาเปล่าและแสง

2. พื้นผิวเรียบเงาสม่ำเสมอ
   

   การพ่นสีที่ได้มาตรฐานจะต้องมีการทำความสะอาดเพื่อให้การพ่นสีนั้นราบรื่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับรถยนต์ ซึ่งจะต้องมีความมันเงา อีกทั้งไม่มีผิวสากคล้ายกับเปลือกส้ม ซึ่งการพ่นสีรถยนต์ที่ได้คุณภาพจะทำให้สีมีความเข้มในระดับที่เท่ากันชัดเจน ทำให้รถทั้งคันมีสีที่เรียบเงาสม่ำเสมอ

3. ทนทานต่อ UV และสารเคมี
   

   การใช้สีคุณภาพสามารถดูผ่านระยะเวลาการใช้งานของรถอีกด้วย โดยสีรถยนต์ที่ดีจะต้องไม่ซีดหรือหมอง แม้ว่าจะจอดกลางแดดที่ร้อนจัด อีกทั้งยังต้องสามารถทนต่อฝนกรด คราบมูลนก หรือแม้แต่รอยขีดข่วนได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าฝนก็มั่นใจได้ว่ารถจะไม่สีซีดหรือหลุดลอก

4 ปัญหาที่ต้องพบเจอเมื่อเลือกสีพ่นที่ไม่ได้มาตรฐาน

หากสีพ่นรถยนต์ที่คุณเลือกใช้นั้นไม่ได้มาตรฐาน นอกจากสีที่ไม่สวยโดดเด่นแล้ว จะส่งผลให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง

1. สีเพี้ยน
   

   การผิดเฉดสีเป็นหนึ่งในปัญหาที่จะเกิดขึ้นหากคุณเลือกสีพ่นรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐานเพราะรถที่รักจะดูเหมือนคุณผู้หญิงที่ใช้คุชชั่นผิดเบอร์ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรถ อีกทั้งสร้างความเสื่อมสภาพให้กับยานพาหนะ
   สีพ่นที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้เกิดรอยด่างในบางจุดเงา ทำให้รถยนต์ของคุณในช่วงกลางวันมีสีที่ไม่สม่ำเสมอ

2. ความไม่เรียบเนียน
   

   หากสีพ่นรถยนต์นั้นไม่ได้คุณภาพจะทำให้รถดูด้าน ไม่เงา แม้ว่าคนที่ชอบความแมทจะไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่ความไม่เรียบเนียนนี้มาในรูปแบบของผิวส้ม ซึ่งเกิดจากพ่นสีไม่สม่ำเสมอ อุณหภูมิสีไม่เหมาะสม หรือไม่ขัดเคลือบชั้นสุดท้าย สะท้อนถึงมาตรฐานการบริการ

3. สีพอง บวม และลอกในภายหลัง
   

   ถ้าเตรียมพื้นผิวรถยนต์ก่อนพ่นได้ไม่ดี มีคราบซิลิโคนหรือคราบไขมันก่อนการพ่นสีจะทำให้เกิดเหตุการณ์สีลอก หลุดล่อนเป็นแผ่นในภายหลัง เมื่อรถยนต์ต้องเผชิญน้ำมันและแสงแดดจัด

4. สีซีดและหมองก่อนเวลา
   

   ลองนึกว่าคุณได้ใช้จ่ายไปกับสีพ่นรถยนต์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่อีก 3 เดือนข้างหน้ารถแสนรักกลับมีสีที่ซีดจางจนดูเก่า หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้รถยนต์มีสภาพโทรมเหมือนไม่ได้รับการดูแลส่งผลให้ต้องใช้จ่ายเพิ่มเติมไปกับการพ่นสีรถยนต์อีกครั้ง ซึ่งในกรณีนี้อาจสร้างค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนได้

ปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับรถยนต์หากใช้สีพ่นรถยนต์ที่ไม่ได้คุณภาพและบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน

แต่งเติมรถยนต์ให้ดูโดดเด่นด้วยบริการพ่นสีคุณภาพจาก The Code Color

ถ้าหากคุณอยากรักษาสภาพรถยนต์ให้ดูเหมือนใหม่และมีคุณภาพดีอยู่ตลอดเวลาด้วยยริการพ่นสีรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งสีพ่นคุณภาพที่มีให้เลือกทุกโค้ดสีและบริการมาตรฐานจากความใส่ใจ ทำให้ The Code Color เป็นตัวซาลอนเสริมสร้างภาพลักษณ์ยานพาหนะที่คุณไม่ควรพลาด อีกทั้งด้วยราคาที่เข้าถึงได้ทำให้ไม่ว่าจะพ่นสีเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์รถยนต์บ่อยแค่ไหนก็ยังมีเงินเหลือในกระเป๋าสตางค์ เพราะไม่ต้องใช้จ่ายซ้ำซ้อนเพื่อรักษาคุณภาพสี เพียงแค่เลือกพ่นสีกับ The Code Color เท่านี้รถยนต์ของคุณก็สามารถถ่ายทอดตัวตนในแบบฉบับเฉพาะ แถมยังรักษาคุณภาพยานพาหนะไว้ได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะขับรถยนต์ใช้เองหรือนำไปขายต่อมือสองก็ได้กำไรชีวิตทั้งนั้น