51-53 ซอยศูนย์บันเทิงการค้า ถนนนวมินทร์ เเขวงคลองจั่น บางกะปิ, กรุงเทพ, ประเทศไทย 10240

ให้แบรนด์ของคุณสดใหม่ตามสมัยด้วยการรีแบรนด์ดิ้งผ่านสี Soft Pastel

การรีแบรนด์เป็นกระบวนการปรับภาพลักษณ์หรือองค์ประกอบของแบรนด์ให้สอดคล้องกับยุคสมัยและทิศทางของธุรกิจ ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนโลโก้ ปรับโทนสี ฟอนต์ หรือแม้แต่วิธีการสื่อสารกับลูกค้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อ ทำให้แบรนด์ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และสร้างความจดจำใหม่ ๆ ที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

หนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันมาก คือ การปรับโทนสีให้สื่อสารบุคลิกของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนและเข้ากับความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งสีโทนพาสเทลถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม

สีพาสเทล หรือ Pastel Color เกิดจากการผสมแม่สีกับสีขาวในปริมาณมาก ทำให้ความเข้มของสีลดลง จนให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ฉูดฉาด ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ

  • สื่ออารมณ์อ่อนโยนและอบอุ่น

    การมองสีพาสเทลทำให้รู้สึกสบายใจ คลายความตึงเครียด จึงถูกเลือกใช้ในงานที่ต้องการให้ผู้คนรู้สึกเป็นมิตร เช่น คาเฟ่ ร้านดอกไม้ หรือสินค้าสำหรับเด็ก

  • ทำให้พื้นที่และงานออกแบบดูโปร่งโล่ง

    เมื่อใช้ในงานตกแต่งภายใน สีพาสเทลช่วยทำให้ห้องดูกว้างและสว่างขึ้น เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือสปาที่ต้องการบรรยากาศสงบ

  • จับคู่สีได้ง่ายและกลมกลืน

    พาสเทลสามารถแมตช์เข้ากับสีพาสเทลอื่น ๆ หรือแม้แต่สีขาว เทา และเอิร์ธโทน ได้อย่างลงตัว ทำให้เหมาะสำหรับการออกแบบที่ต้องการความเรียบง่ายแต่ดูมีรสนิยม

  • สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เข้าถึงง่าย

    ในมุมของการตลาด สีพาสเทลช่วยให้แบรนด์ดูอบอุ่น เป็นมิตร และสร้างความรู้สึกไว้ใจได้ เหมาะกับธุรกิจที่อยากสื่อสารความจริงใจและความเป็นกันเองกับลูกค้า

soft pastel color

วิธีการรีแบรนด์ดิ้งธุรกิจผ่านการใช้ Pastel Color

ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับประสบการณ์และภาพลักษณ์มากกว่าที่เคย แบรนด์จึงต้องปรับตัวให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความรู้สึกของลูกค้า ทำให้การเลือกใช้สีพาสเทลสำหรับการรีแบรนด์ธุรกิจเป็นทางเลือกยอดนิยม เพราะสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของแบรนด์ให้ดูเป็นมิตร นุ่มนวล และเข้าถึงง่ายขึ้น  ด้วยวิธีการดังนี้

  1. ทำให้ภาพลักษณ์ดูอ่อนโยนขึ้น

    หากภาพลักษณ์เดิมของแบรนด์มีความแข็ง ดูจริงจัง หรือเป็นทางการมากเกินไป การใช้โทนสีพาสเทลจะช่วยให้แบรนด์ดูนุ่มนวลและเข้าถึงง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการรีแบรนด์ที่มุ่งดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นกันเองและความอบอุ่นของแบรนด์

  2. ปรับโทนให้ทันสมัย

    สีพาสเทลเป็นโทนสีที่ร่วมสมัยและสื่อถึงความสดใหม่ การนำมาใช้ในงานออกแบบโลโก้ เว็บไซต์ หรือบรรจุภัณฑ์ จะช่วยทำให้แบรนด์ดูทันสมัยและสอดคล้องกับเทรนด์ปัจจุบัน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงดีไซน์ทั้งหมด

  3. สร้างอารมณ์เชิงบวกให้ลูกค้า

    งานวิจัยด้านจิตวิทยาสียืนยันว่า สีโทนอ่อนสามารถลดความตึงเครียดและสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย การรีแบรนด์ด้วยสีพาสเทลจึงช่วยให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ดีเมื่อพบเห็นสินค้า ตัวอย่างเช่น คาเฟ่ที่ปรับจากโทนสีเข้มมาใช้ฟ้าอ่อนและชมพูอ่อน ส่งผลให้บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่นและดึงดูดให้ลูกค้าถ่ายภาพและแชร์ประสบการณ์

  4. รักษาเอกลักษณ์เดิมไว้ได้

    การปรับโทนสีเป็นพาสเทลยังคงสามารถรักษาโครงสร้างโลโก้ ฟอนต์ และองค์ประกอบหลักของแบรนด์ไว้ ทำให้ลูกค้าเดิมจดจำแบรนด์ได้ง่าย พร้อมกันนั้นยังช่วยให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูสดใสและร่วมสมัยมากขึ้น

  5. เหมาะกับสื่อดิจิทัลและคอนเทนต์ออนไลน์

    สีพาสเทลช่วยให้ภาพรวมของงานออกแบบดูนุ่มนวลและไม่รบกวนสายตา เหมาะกับการใช้งานบนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งต้องการดึงดูดความสนใจโดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถูกรบกวน

สีพาสเทลจาก The Code Color กับการรีแบรนด์ที่สร้างคุณค่าให้แบรนด์

การรีแบรนด์ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนโลโก้หรือออกแบบใหม่ให้ดูสวยงามเท่านั้น แต่คือกระบวนการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่สอดคล้องกับตัวตนของธุรกิจและความคาดหวังของลูกค้าในปัจจุบัน ทำให้สีโทนพาสเทลได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง เพราะสามารถกำหนดอารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภคได้ ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวล อบอุ่น และเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างความรู้สึกเป็นมิตรและปลดล็อกการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ 

การเลือกเฉดสีพาสเทลที่เหมาะสม เช่น Baby Blue ที่สื่อถึงความสงบและความน่าเชื่อถือ Mint Green ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น  Peach Beige ที่เสริมความอบอุ่น และ Lavender ที่สื่อถึงความโรแมนติกอ่อนโยน จะช่วยให้แบรนด์มีบุคลิกที่ชัดเจนและเป็นที่จดจำ

สำหรับธุรกิจที่ต้องการรีแบรนด์ด้วยสีโทนพาสเทล สามารถเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสีอย่าง The Code Color ที่จะช่วยให้ได้ชุดสี Color Palette ที่สวยงามและเหมาะสมกับกลยุทธ์แบรนด์ในระยะยาว ทำให้ไม่เพียงเปลี่ยนโทนภาพลักษณ์ แต่ยังสร้างความต่อเนื่องในการสื่อสารกับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในอนาคต

 

Leave a comment

You must be logged in to post a comment.